วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ล่องแก่งศรีบรรพต

ล่องแก่งศรีบรรพต


            หากเอ่ยถึงแก่งศรีบรรบตเชื่อว่าหลายๆคนอาจจะยังสงสัยว่าอยู่ที่ไหน แต่สำหรับชาวบ้านในเขต จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เนื่องจากการล่องแก่งศรีบรรพตในอดีตนั้น เคยได้รับความนิยมสูงสุดจากบรรดากลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นในการผจญภัยกลางสายน้ำเชี่ยวซึ่งมีที่นี่เพียงแห่งเดียว 



         ในการเดินทางไปผจญภัยกับสายน้ำเชี่ยวกรากของแก่งศรีบรรพตนั้น แม้จะมีจุดตั้งต้นได้หลายเส้นทาง แต่เพื่อความสะดวกและปลอดภัยเราสามารถเริ่มต้นการเดินทางจากหน้าที่ว่าการอำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ไปตามถนนลาดยางมะตอยที่คดเคี้ยว ลาดบ้างชันบ้าง ริมถนนสองข้างทางเป็นป่าสวนผลไม้และสวนยางของชาวบ้านในพื้นที่

         บางช่วงของถนนจะพบบ้านเรือนของชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิมตั้งกระจายเป็นหย่อมๆ ไม่ต่างจากเส้นทางเข้าไปสู่หมู่บ้านชนบทในจังหวัดอื่นๆ และเพียงแค่ 7 กิโลเมตรตามทางยาวของถนนสายนี้ จะเข้าสู่เขตตำบลศรีบรรพต อำเภอศรีสาคร ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ




ฮารง  บือราเฮง   นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีบรรพต ย้อนที่มาของการล่องแก่งศรีบรรพตว่า  แม่น้ำสายบุรีช่วงที่อยู่ในเขตตำบลศรีบรรพต มีลำน้ำที่คดเคี้ยงและมีแก่งหินหลายๆช่วงหลายๆจุด รวมไปถึงสภาพธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ที่สวยงามแห่งหนึ่ง ทาง อบต.และอำเภอ จึงมีความเห็นร่วมกันที่จะจัดเป็นสถานที่ล่องแก่ง ที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของอำเภอศรีสาครและจังหวัดนราธิวาสได้
            ดังนั้น โครงการล่องแก่งสันกาลาคีรีศรีสาคร จึงเริ่มขึ้นในปี 2543 ด้วยงบประมาณสนับสนุนจาก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ในสมัยนั้น ร่วมกับงบประมาณขององค์การบริหารส่วนตำบลศรีบรรพต และการสนับสนุนจากทางอำเภอศรีสาครและจังหวัดนราธิวาส เพื่อจัดให้ล่องแก่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ 
            นายก อบต.ศรีบรรพต กล่าวว่า หลังจากที่ได้งบประมาณได้เริ่มสร้างอาคารและซื้อเรือยางมาจำนวน 5 ลำ พร้อมอุปกรณ์ ต่างๆ รวมไปถึงเสื้อชูชีพ  โดยราคาเรือยางในขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 80,000 กว่าบาทต่อเรือยางหนึ่งลำ แต่ปัจจุบันทาง อบต.ได้ซื้อเรือยางเพิ่มมาอีก 5 ลำ เพราะเรือยางเดิมได้ชำรุดและไม่สามารถซ่อมแซมนำกับมาใช้ได้
            “ค่าบริการลำละ 400 บาทต่อเที่ยวต่อลำหนึ่ง เรือลำหนึ่งจะบรรทุกนักท่องเที่ยวได้ประมาณ  6 คน มีเจ้าหน้าที่ประจำเรือ 1 คน  เส้นทางล่องแก่งมีความยาว 8 กม. ใช้เวลาในการล่องแก่งประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ล่องไปในแม่น้ำที่มีแก่งหินที่ท้าทายการล่องเรือ อย่าง แก่งเสือดื้อ”  ที่ได้รับการขนานนามและเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่เคยมาล่องแก่งอย่างมาก  เพราะเป็นแก่งหิน ที่น้ำเชี่ยวและยากในการบังคับเรือยางเป็นอย่างมาก อารง กล่าว
            เขาเล่าว่า ในช่วงที่เปิดให้บริการล่องแก่งศรีบรรพตใหม่ๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยสงขลานัครินทร์วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา และประชาชนทั่วไป มีทั้งมากันกลุ่มเล็กๆจนไปถึงคณะใหญ่ที่มากันเป็นรถบัส  โดยผู้คนส่วนมากจะรู้จักล่องแก่งจากการบอกต่อกันของผู้ที่เคยมาท่องเที่ยว  รวมไปถึงรู้จักผ่านการประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

            ช่วงที่สามารถมาล่องแก่งได้คือเดือนมกราคม พฤษภาคม  เพราะเป็นช่วงหน้าร้อน  แต่ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวกันในช่วง เมษายน พฤษภาคม เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมของนักเรียน โดยในปี 2546  เป็นปีที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากที่สุด จัดเก็บค่าบริการได้สูงถึง 4 แสนกว่าบาทเลยทีเดียวอารง กล่าว
           นายก อบต.อธิบายว่า  ทางองค์การบริหารส่วนตำบลฯจะมีรายได้จากอัตราค่าบริการ 400 บาทต่อลำต่อเที่ยว โดยจำนวนนี้จะถูกแบ่งเก็บเป็นค่าไว้บำรุงซ่อมแซมอุปกรณ์จำนวน 120 บาทต่อลำ ส่วนที่เหลือจะเป็นค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่ และค่าน้ำมันรถในการไปรับนักท่องเที่ยว หลังจากล่องแก่งจนถึงจุดหมายปลายทาง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีเงินเดือนประจำ และจะได้รับค่าตอบแทนเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเท่านั้น

           ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมนักท่องเที่ยวลดลงมาก บางเดือนแทบไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการเลย เนื่องจากกลัวความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้กิจการล่องแก่ง ซบเซารายได้ที่เป็นส่วนของการบำรุงซ่อมแซมก็ไม่มีเข้ามา ทางอบต.ต้องจัดงบมาอุดหนุนในการบำรุงซ่อมแซม 
            อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปี 2549 ที่ผ่านมา ทาง อบต.ร่วมกับอำเภอและจังหวัด พยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวล่องแก่ง โดยได้จัดงบประมาณขึ้นมาซ่อมแซมจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม ปรับปรุงบริเวณอาคาร และสร้างห้องน้ำและศาลาเพิ่ม เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและได้ประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนในนักท่องเที่ยวเขามาท่องเที่ยวเหมือนในอดีตแล้ว
          “ที่นี่ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ถ้าเปรียบกับพื้นที่อื่นๆแล้วความรุนแรงน้อยกว่านะ เขาไม่กล้ามาเที่ยว เพราะอาจยังไม่เชื่อมั่นมั่นในการดูแลความปลอดภัย คิดว่าหากไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ ล่องแก่งสันกาลาคีรีศรีสาคร คงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนมาเที่ยวไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆแน่นอน เพราะยังคงความสวยงามของธรรมชาติเอาไว้ได้สมบูรณ์ค่อนข้างมากนายกอบต.คนเดิม กล่าว
            ขณะที่มะซอรี ยามา วัย 28 เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดเก็บอุปกรณ์  กล่าวว่า เขาจะมีหน้าที่คอยต้องรับนักท่องเที่ยวและจัดเก็บอุปกรณ์ เรือโบ เสื้อชูชีพ  หมวกกันน็อค ไม้พายและบ้างครั้งก็จะทำความสะอาดสถานที่รอบข้างนักท่องเที่ยวจะมากในช่วงโรงเรียนปิดเทอม ช่วงนั้นเจ้าหน้าที่จะมีรายได้ดี เพราะแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวมาจากที่ต่างๆจำนวนมาก 
  
            เขากล่าวว่า ปีนี้ล่องแก่งจะปิดให้บริการให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนรอมฎอนและช่วงฤดูฝนในลำคลองจะมีแม่น้ำมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่กล้าปล่อยให้ล่องแก่งกลัวเพราะกลัวจะเกิดอันตราย อย่างไรก็ตามเชื่อว่า หากไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่การล่อยแก่งในตำบลศีรบรรพต คงจะมีคนมาเที่ยวมากกว่านี้ เนื่องจากพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ มีการล่องแก่งที่นี้ที่เดียว 

            “วันนี้มีนักท่องเที่ยวมาล่องแก่งเพียงลำเดียว ซึ่งหมายความว่า ผมได้ค่าจ้างแค่ 50 บาท ไม่เหมือน 2 ปี ที่แล้วที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ในช่องนั้นมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะบางวันผมได้ค่าจ้าง 1,000 กว่าบาทต่อวันมะซอรี กล่าว
            ด้านศุภชัย  ไชยวรรณ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลศรีบรรพต กล่าวว่า ล่องแก่งสันกาลาคีรีศรีสาคร ยังถือเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาได้  แม้ว่าเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เมื่อดูสถิติการเกิดความไม่สงบในเมืองเล็กๆอย่างอำเภอศรีสาคร เกิดเหตุการณ์ขึ้นความไม่สงบขึ้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับอำเภออื่นๆ เดือนที่ผ่านมาไม่มีเลยแม้แต่เหตุการณ์เดียว จึงไม่ได้เป็นพื้นที่น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิด
            ผมอยากให้ ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและเที่ยวแบบธรรมชาติ  เข้ามาเที่ยวที่ล่องแก่งกันมากขึ้น เพราะราคาค่าบริการถูกกว่าสถานที่ท่องเที่ยวลักษณะเดียวกันในจังหวัดอื่นๆ  เมื่อนักท่องเที่ยวมาก ร้านค้าขายอาหารและสินค้าต่างๆ ของชาวบ้านในพื้นที่ก็เกิดขึ้นตามมา เป็นสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วยปลัดอบต.ศรีบรรพตทิ้งท้าย


วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Srisakhon Off Road lll

Srisakhon Off Road lll
ไทย-มาเลย์ สู่ AEC 2015





การแข่งขัน ออฟโรด และ เรือคายัต ครํ้งที่3 ไทย-มาเลย์ สู่ AEC 2015
วันที่ 18-19 มีนาคม 2557 ณ แม่น้ำ สายบุรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิาส